คำถามที่พบบ่อย
1. Private-PPA และ Direct-PPA คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร?
Private-PPA (Private Power Purchase Agreement) คือข้อตกลงซื้อขายไฟฟ้าระหว่างผู้ผลิตพลังงาน (ผู้พัฒนาโครงการ) และผู้ใช้ไฟฟ้า (องค์กรหรือธุรกิจ) โดยไม่ผ่านการขายไฟฟ้าผ่านระบบสายส่งสาธารณะ เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตหรือหน่วยงานรัฐ
Direct-PPA (Direct Power Purchase Agreement) คือสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโดยตรงระหว่างผู้ผลิตพลังงานกับผู้ใช้พลังงาน โดยไม่ผ่านตัวกลางหรือผู้ให้บริการจำหน่ายไฟฟ้าสาธารณะ เช่น การไฟฟ้าหรือหน่วยงานรัฐ
ความแตกต่างระหว่าง Direct-PPA และ Private-PPA:
Direct-PPA: การส่งพลังงานผ่านสายส่งของรัฐ แต่ไม่ผ่านการซื้อขายผ่านการไฟฟ้าสาธารณะ
Private-PPA: มุ่งเน้นการผลิตและใช้พลังงานในสถานที่เดียวกันหรือเครือข่ายส่วนตัวโดยไม่พึ่งสายส่งของรัฐ
2. Asset Tokenization คืออะไร?
Asset Tokenization คือ การนำสินทรัพย์ที่จับต้องได้ เช่น โซลาร์ฟาร์ม โซลาร์รูฟท็อป โซลาร์ลอยน้ำ แบตเตอรี่ และสถานีชาร์จอีวี เป็นต้น และสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ มาแปลงให้เป็นโทเคนดิจิทัลบนเทคโนโลยีบล็อกเชนและนำไปเสนอขายให้กับนักลงทุนหรือผู้ที่สนใจ
3. REC และ I-REC คืออะไร
REC (Renewable Energy Certificate) คือใบรับรองพลังงานหมุนเวียนที่ยืนยันว่ามีการใช้พลังงานหมุนเวียนในประเทศสหรัฐอเมรืกาและแคนนาดา
I-REC (International Renewable Energy Certificate) คือระบบใบรับรองพลังงานหมุนเวียนแบบสากลที่มีมาตรฐานและระบบติดตามที่ยอมรับในระดับนานาชาติโดย I-TRACK ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรจากประเทศเนเธอแลนด์ โดย ณ ปัจจุบัน I-REC เป็นมาตรฐานหลักที่ถูกใช้ใน 60 ประเทศทั่วโลกที่เป็นประเทศนอกทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ โดยหนึ่งในนั้นคือประเทศไทย
4. T-Ver คืออะไร
T-VER คือ โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program: T-VER) คือ โครงการลดก๊าซเรือนกระจกที่องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) พัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการลดก๊าซเรือนกระจกในประเทศโดยความสมัครใจ โดย อบก. จะเป็นผู้ให้การขึ้นทะเบียนโครงการ T-VER และรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดหรือกักเก็บได้จากโครงการ T-VER โดยปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดหรือกักเก็บได้ จะเรียกว่า “คาร์บอนเครดิต” ซึ่งสามารถนำไปใช้รายงาน ใช้ชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากองค์กร บุคคล การจัดงานอีเว้นท์ และจากการผลิตผลิตภัณฑ์ได้
5. Carbon Credit คืออะไร
Carbon Credit คือ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลด/กักเก็บได้จากการดำเนินโครงการลดก๊าซเรือนกระจกผ่านกลไกลดก๊าซเรือนกระจกต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีหน่วยเป็นตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และสามารถนำคาร์บอนเครดิตไปแลกเปลี่ยนหรือซื้อ-ขายเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้ ไม่ว่าจะเป็น การนำไปปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้จากการดำเนินงานไปรายงาน การนำไปใช้ชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากองค์กร บุคคล งานบริการ หรือจากการผลิตผลิตภัณฑ์ ต่างๆ
6. Carbon Footprint คืออะไร
Carbon Footprint คือ ปริมาณการปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์ หรือจากกิจกรรมที่เราทำ ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ ที่เราทำ เช่น การใช้ไฟฟ้า การใช้เชื้อเพลิงคาร์บอนฟุตพริ้นท์มีด้วยกัน 2 ประเภท
- Carbon Footprint Product หรือ CFP คือ ปริมาณการปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์ โดยมาจากกระบวนการจัดหาวัตถุดิบ การผลิต การกระจายสินค้า/ขนส่ง การใช้งาน/บริโภค การจัดการของเสียหลังการใช้งานผลิตภัณฑ์
- Carbon Footprint for Organization หรือ CFO คือปริมาณการปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมการดำเนินงานขององค์กร ซึ่งจะถูกวัดรวมอยู่ในรูปของตัน (กิโลกรัม) ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า โดยแบ่งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็น 3 ส่วนที่จะเป็นขอบเขตในการวัด คือ
- Scope 1 : การคำนวน CFO โดยตรงจากกิจกรรมต่างๆ ขององค์กร เช่น การเผาไหม้เชื้อเพลิง การใช้พาหนะที่องค์กรเป็นเจ้าของ การรั่วไหลและการบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น
- Scope 2 : การคำนวน CFO จากการใช้พลังงาน คือการซื้อพลังงานมาใช้ในองค์กร เช่น พลังงานไฟฟ้า พลังงานไอน้ำ พลังงานความร้อน
- Scope 3 : การคำนวน CFO จากกิจกรรมทางอ้อมอื่นๆ ขององค์กร เช่น การเดินทางของพนักงาน (ที่ไม่ใช้ยาพาหนะขององค์กร) การเดินทางสัมนานอกสถานที่ เป็นต้น

Decentalized Energy for All
Asset Tokenization Project Development Asset Management REC Aggregator Carbon Consulting
Subscription for News Update and Promotion
แผนผังเว็บไซต์
Follow Us
info@decentenergyth.com
Location
2 อาคารสีลมเอจ
ชั้น 12 ถนนสีลม กรุงเทพ 10500 ประเทศไทย
- Cookie Policy
- Privacy Policy
- © 2024 Decent Energy Co., Ltd. All right reserved